เรซูเม่ครีเอ้ทีฟ: ตัวอย่าง resume งานบริการลูกค้า Customer Service

ตัวอย่าง resume งานบริการลูกค้า Customer Service

งานบริการลูกค้าเป็นงานที่ช่วยสนับสนุนลูกค้าในด้านผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งก่อนและหลังการขาย เพื่อให้ลูกค้าได้มีประสบการณ์ที่ดีกับผลิตภัณฑ์ของเรา ซึ่งอาจรวมถึงการให้คำอธิบาย ความช่วยเหลือต่าง ๆ การตอบคำถามซ้ำ ๆ การรับฟังปัญหาและรับมือกับลูกค้าที่ผ่านประสบการณ์เลวร้ายมา การทำงานด้านบริการลูกค้าจึงอาจต้องอาศัยความเข้าใจ ความอดทน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงทัศนคติที่ดีเพื่อที่จะสร้างความสุขให้กับลูกค้าและความสำเร็จให้กับตัวเราในอาชีพนี้ค่ะ

ด้านล่างเป็นตัวอย่าง resume ภาษาอังกฤษ งานบริการลูกค้า Customer Service สามารถนำประโยคไปปรับใช้ได้เลยนะคะ พยายามเขียนอธิบายหน้าที่ความรับผิดชอบว่าเราทำอะไร ทำอย่างไร เกิดผลลัพธ์อะไร ให้เห็นภาพค่ะ

ตัวอย่าง resume งานบริการลูกค้า Customer Service

Ms. Resume Sample

Customer Service Representative

Dedicated Customer Service Representative. Enthusiastic to be a part of the organization to build customer loyalty and to provide superior services with excellent communication and coordination skills towards achievement.

Achievement

Certified Customer Service Professional (CCSP)
Staff of The Month Award, Mar - May 2021

Qualification

Effective communicator
Strong analytical thinking
Skilled at Service-Based Selling
Fluent in modern computer technology
Calm and patient, able to handle the conflict with positive attitude.

Education

Bachelor of Public Administration

Abc University, 2015

Experience

Customer service representative

Chamomile Hill | 2019-present

Provide detailed information on products and services with service mind to boost new customers by 10% monthly.
Coordinate and communicate effectively with internal departments, resulting in a fast and smooth process of solving problems for clients.
Maintain up-to-date account information of clients accurately.
เขียนอธิบายว่าเราทำอะไร อย่างไร ได้ผลลัพธ์อะไร ให้เห็นภาพค่ะ, งานปัจจุบันทำอยู่ ใช้ Present Tense

Front desk

Fern and Friends Inc. | 2016-2019

Greeted guests politely and responded to their inquiries professionally.
Resolved unexpected problems and concerns with best alternatives in a timely manner.
Managed to interact with walk-in clients, from online platforms and phone calls with multitasking abilities.

--------------------------

แนวคิด/วิธีเขียน resume สำหรับผู้สมัครงานทั่วไป/มีประสบการณ์ทำงานแล้ว/เปลี่ยนงานในสายงานเดิม

1.หัวข้อการเขียน resume
หัวข้อใน resume ทำหน้าที่แบ่งเนื้อหาให้เป็นสัดส่วน เพื่อให้อ่านง่าย เข้าใจง่ายทั้งผู้อ่านและผู้เขียน เมื่อเราเลือกหัวข้อที่จะเขียน ก็จะเป็นการเตรียมเนื้อหาที่จะเขียนอย่างคร่าว ๆ แล้วค่ะ แอดมินมีหัวข้อ resume หลายหัวข้อเพื่อให้เลือกเขียนตามคุณสมบัติที่เรามี ข้อไหนไม่มีก็ข้ามไปได้ ไม่จำเป็นต้องเขียนทุกหัวข้อนะคะ

Personal Contact/Personal Information/Contact Information ประวัติส่วนตัว

ส่วนนี้ขาดไม่ได้เลยเป็นหัวข้อที่สำคัญเพื่อให้ฝ่ายสรรหาติดต่อเราได้ จะประกอบด้วยส่วนหลักที่เป็นชื่อ-นามสกุล เบอร์โทร อีเมล์ ที่อยู่ วันเกิดหรืออายุ ส่วนที่เหลือจะเป็นรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็น แต่หากสงสัยว่าการเขียนข้อมูลส่วนตัวมีขอบเขตแค่ไหน ต้องระบุน้ำหนัก ส่วนสูง สถานภาพสมรสไปด้วยเลยมั้ย คลิกดูตัวอย่างที่นี่ค่ะ

Job Objective/Career Objective หรือ Summary จุดมุ่งหมายในอาชีพ หรือ สรุปย่อความสามารถส่วนตัว

ผู้สมัครงานที่มีประสบการณ์แล้วสามารถเลือกที่จะเขียน Objective หรือ Summary อย่างใดอย่างหนึ่งได้ โดยเนื้อหาที่เขียนนั้นจะคล้ายกัน ให้ดูว่าเราเหมาะสมกับแบบไหนดังนี้

Job Objective/Career Objective (เลือกชื่อใดชื่อหนึ่ง) เป็นการเขียนอธิบายสั้น ๆ ไม่กี่ประโยคว่าคุณสมบัติในตัวเรามีอะไรบ้าง และด้วยคุณสมบัตินี้ เราจึงควรจะเป็นผู้สมัครที่เหมาะกับตำแหน่งงาน บอกจุดมุ่งหมายในการทำงานของเราในแง่ที่จะเอื้อให้องค์กรได้ประโยชน์ เหมาะกับผู้สมัครที่ทราบตำแหน่งงานชัดเจน รวมถึงผู้สมัครที่ต้องการเปลี่ยนสายงาน และควรระบุชื่อตำแหน่งงานที่สมัครลงไปด้วย คลิกดูตัวอย่าง

Summary/Career Summary/Professional Summary (ชื่อใดชื่อหนึ่ง) คือการเขียนสรุปย่อหน้าสั้น ๆ บรรยายถึงความสามารถตามประสบการณ์ที่ผ่านมาของผู้สมัคร อาจเป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง ความถนัดในตัวงาน หรือคุณสมบัติใดก็ตามที่จะบ่งบอกว่าเรามีความสามารถตรงกับสิ่งที่บริษัทกำลังมองหาอยู่นั่นเอง เหมาะกับผู้สมัครที่มีประสบการณ์มาบ้างแล้วในสายงานเดิมจนถึงระดับที่มีความชำนาญสูง เราสามารถระบุชื่อตำแหน่งที่ต้องการสมัครลงไปหรือไม่ก็ได้ ซึ่งฝ่ายสรรหาจะทราบจากความสามารถและประสบการณ์ที่เราเขียนบรรยายไว้ ส่วนมากผู้สมัครงานระดับสูง ผู้ที่มีความชำนาญหรือผู้ที่ทำงานในสายงานเดิมมานานแล้วจะใช้หัวข้อนี้แทน Job Objective ค่ะ

Achievement/Honor/Awards รางวัลแห่งความสำเร็จ

ใครมีผลงานที่สามารถโชว์เป็นหน้าเป็นตาได้ แนะนำหัวข้อนี้ถัดจาก Job Objective หรือ Summary ค่ะ จะเป็นการรวบรวมความสำเร็จในชีวิตที่ผ่านมา ประกาศนียบัตร หรือที่เราเรียกกันว่าใบเซอร์ รางวัล ทุนการศึกษาที่ได้รับมา ไม่ว่าจากการแข่งขันต่าง ๆ หรือที่ใดก็ตาม รางวัลเกียรติยศทางสังคม รางวัลความสำเร็จ การได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งใดก็ตาม คลิกดูตัวอย่าง

Key Skills/Skills ทักษะ

เป็นการเขียนทักษะที่เกิดขึ้นจากประสบการณ์ทำงานที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการทำงานที่รับผิดชอบในตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจนเกิดเป็นทักษะ เป็นความเชี่ยวชาญเฉพาะทางนั่นเอง สามารถเขียนรวมกับหัวข้อ Qualification ได้ หรือเขียนแยกกันก็ได้ค่ะ คลิกดูตัวอย่าง

Qualification คุณสมบัติเด่น

หัวข้อคุณสมบัติเด่นใน resume นี้เปิดกว้างมากค่ะ เราสามารถเขียนทุกอย่างในตัวเราในทุกแง่มุมได้หมดเลย ขอแค่เป็นคุณสมบัติที่ดีเท่านั้น อะไรที่ไม่ดีในตัวเรา ให้ลืมไปก่อน และแน่นอนว่า ต้องเกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่สมัครด้วย คลิกดูตัวอย่าง

Experience ประสบการณ์ทำงาน

การเขียนประสบกาณ์ทำงานในเรซูเม่นั้นจะเขียนได้หลายแบบ เนื่องจากมีความสอดคล้องกับรูปแบบ (format) ในการเขียน แต่ถ้าเราต้องการสมัครงานในสายงานเดิมและไม่มีช่วงพักงานนาน ฟอร์แมตแบบเรียงตามลำดับเวลาจะเหมาะสมที่สุดค่ะ ซึ่งจะมีแนวคิดและวิธีเขียนอย่างละเอียดดังนี้ คลิกดูตัวอย่าง

Education การศึกษา

เมื่อเรามีประสบการณ์ทำ่งานมาแล้ว หัวข้อการศึกษาก็เลยจะไม่ใช่ส่วนแรก ๆ ที่ฝ่ายสรรหาจะมองหาเท่าไหร่นัก เราจึงสามารถจัดวางหัวข้อนี้ไว้ล่าง ๆ ของเรซูเม่ได้ค่ะ เพียงแค่เขียนให้ครบก็พอ คลิกดูตัวอย่าง

Special Interests ความสนใจพิเศษ

ผู้สมัครที่มีความชำนาญแล้วจะไม่ค่อยให้ความสนใจหรือไม่ค่อยเขียนหัวข้อนี้แล้ว อาจเป็นเพราะระดับความเชี่ยวชาญที่มีมันเลยจุดที่เป็นความสนใจพิเศษนี้ไปแล้ว เพราะมันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตผู้สมัครที่มีความชำนาญในด้านใดด้านหนึ่งไปแล้ว และเนื้อหาส่วนอื่นก็ได้บอกและมีคำตอบในสิ่งที่ผู้สมัครสนใจไว้หมดแล้วค่ะ

แต่หากเรายังไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญนัก และหัวข้อนี้จะมีคะแนนพิเศษให้กับเรา หรือความสนใจพิเศษของเราจะช่วยเกื้อหนุนความสามารถที่เรามีในงานที่ต้องการสมัคร ก็เขียนตามแนวทางเลยค่ะ คลิกดูตัวอย่าง

References บุคคลอ้างอิง

หัวข้อบุคคลอ้างอิงนี้ เป็นหัวข้อทางเลือกค่ะ เราสามารถเลือกที่จะเขียนหรือไม่เขียนก็ได้ เพราะฝ่ายสรรหาจะรู้อยู่แล้วว่า จะสามารถขอจากผู้สมัครได้เสมอถ้าต้องการ หัวข้อนี้จึงถูกละไว้บ่อย ๆ เพราะเราจะใช้พื้นที่ส่วนนี้ไปกับการเขียนส่วนอื่นซะมากกว่า แต่หากหัวข้อนี้มีความสำคัญกับเรา คลิกดูตัวอย่างเพื่อเขียนค่ะ

การเขียน resume ของแต่ละคนจะแตกต่างกันไปตามคุณสมบัติ ตามการพิจารณาว่าควรจะเขียนหรือไม่ ซึ่งไม่มีถูกหรือผิด จะมีก็แต่เขียนอย่างไรให้เหมาะสมเท่านั้น

2.การจัดวาง/การเรียงลำดับหัวข้อในเรซูเม่

ลำดับหัวข้อใน resume นั้นค่อนข้างมีความสำคัญกับผู้ที่มีประสบการณ์ทำงานแล้วค่ะ หลักเกณฑ์ที่ต้องคำนึงถึงมีอยู่แค่ข้อเดียวคือ วางสิ่งสำคัญและโดดเด่นที่เป็นหน้าเป็นตากับเราไว้หัวข้อแรก ๆ เท่านั้นเองค่ะ เช่น

Achievement-ถ้าเรามีผลงานที่โดดเด่น จากสิ่งใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับงานใหม่ ก็เขียนหัวข้อนี้ไว้เด่นๆ บนๆ ได้เลยค่ะ
Awards/Honor-รางวัลเกียรติยศ เกียรติคุณต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับงานใหม่

สามารถเขียนรวมกันหรือแยกกันตามความเหมาะสมได้ค่ะ

3.รูปแบบการเขียน (Format) ที่เหมาะกับผู้มีประสบการณ์ที่ต้องการเปลี่ยนงานในสายงานเดิม

รูปแบบหรือ format แบบเรียงตามลำดับเวลาเป็นรูปแบบที่เหมาะสมที่สุดในการเขียน resume สำหรับผู้สมัครที่มีประสบการณ์แล้ว ซึ่งเป็นรูปแบบยอดฮิตที่เรารู้จักและใช้กันเรื่อยมา และยังเป็นที่ถูกอกถูกใจของฝ่ายสรรหาอีกด้วย เพราะมีมุมมองที่แสดงถึงความก้าวหน้าในการทำงานของผู้สมัครตามลำดับชั้น แต่ในบางครั้งอาจไม่เหมาะกับผู้สมัครที่มีช่องว่างหรือเว้นระยะการทำงานนานค่ะ

แบบเรียงตามลำดับเวลา Chronological Format Resume การเขียน resume ตามรูปแบบนี้เป็นการเขียนเรียงตามลำดับเวลา แต่เป็นลำดับเวลาจากปัจจุบันย้อนอดีต (Reverse Chronological) โดยเขียนชื่อตำแหน่ง ชื่อบริษัทและช่วงเวลากำกับไว้

หากใครที่ใช้ format แบบนี้ในการเขียนแล้วไม่ได้งานสักที อยากให้ลองใช้ format แบบผสม Combination ดูค่ะ จะช่วยเพิ่มความชัดเจนในทักษะและความสามารถที่เรามีให้ดูเด่นชัดขึ้นโดยที่ก็ยังเรียงตามลำดับเวลาเหมือนเดิม

4.เขียนเนื้อหาในเชิงความสำเร็จ

ในการเขียนเรซูเม่นั้น เป็นการอธิบายประสบการณ์ หน้าที่ที่รับผิดชอบของเราก็จริง แต่อยากให้เขียนอธิบายในเชิงความสำเร็จว่าการทำงานในหน้าที่ที่เรารับผิดชอบนั้นก่อให้เกิดผลลัพธ์อะไรบ้าง เกิดความสำเร็จอะไรบ้าง จะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ ถ้าเกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้นมาก็สามารถเขียนได้แล้วค่ะ และจะดียิ่งขึ้นไปอีก ถ้าเราตีค่าความสำเร็จออกมาเป็นตัวเลขหรือเปอร์เซ็นต์ได้ เพราะจะเกิดความชัดเจนและความเชื่อมั่นในความเข้าใจของผู้อ่านหรือ HR นั่นเองค่ะ ดูแนวทางการเขียนเพิ่มเติมได้ที่