เราเขียนหัวข้อทักษะ Skills เพื่อบอกให้ HR ทราบว่าเรามีทักษะและความสามารถด้านใดบ้าง ทักษะในโลกนี้มีอยู่มากมาย ไม่มีทักษะใดสำคัญกว่าทักษะใด มีแต่ทักษะใดเหมาะกับตำแหน่งงานใดมากที่สุดค่ะ เพราะฉะนั้น การเขียนทักษะใน resume จึงเป็นการเลือกเขียนทักษะที่ต้องใช้การพิจารณาพอสมควรว่า เราควรจะนำเสนอทักษะใดในตัวเรา ให้สอดคล้องกับตำแหน่งงานที่สมัคร
ดังนั้นการจะเขียนทักษะใดนั้น เราควรจะยึดตำแหน่งงานที่เราสมัครเป็นหลัก แล้วพิจารณาดูว่า มีทักษะใดบ้างที่จะใช้ในการทำงานในตำแหน่งนั้นให้สำเร็จลุล่วงไปได้ แล้วเลือกเขียนทักษะที่เรามี สามารถอธิบายเป็นข้อย่อยได้ด้วยเพื่อให้มีความชัดเจนและเห็นภาพมากขึ้นค่ะ
- เป็นการเขียนเพื่อดึงทักษะที่เรามีออกมาบอกให้ HR ทราบอย่างตรงไปตรงมา HR ไม่ต้องคาดเดาเอาเอง เป็นหัวข้อที่ดึงความสนใจจาก HR ได้มากทีเดียว
- เลือกเขียนเฉพาะทักษะที่ตรงกับตำแหน่งงานที่สมัคร ยิ่งทักษะของเรามีความสอดคล้องกับตำแหน่งงานมากเท่าไหร่ โอกาสที่จะได้งานก็มีมากขึ้นไปด้วย
- หากใครเหมาะกับ Functional Format (ฟอร์แมตแบบเน้นทักษะ) การเขียนหัวข้อ Skills นี้ จำเป็นมากๆค่ะ ควรเขียนกำกับไว้กับประสบการณ์ทำงาน
- อาจใช้ชื่ออื่นเช่น Special Skills/ Skills Summary/ Relevant Skills/ Skills and Capabilities/ Key Skills/ Skills ได้เช่นกัน
วิธีเขียน การเขียนหัวข้อ Skills นั้น มี 3 แบบ
- แบบที่ 1 (ตัวอย่าง 1)
- รวบรวมทักษะทุกอย่างที่เรามี แล้วเขียนไว้ในหัวข้อเดียวกันทั้งหมด
- ทักษะที่เขียนนั้น มีได้หลายประเภท เพียงแต่นำมาเขียนรวมไว้ในหัวข้อเดียวกัน
- หากเรามีทักษะเฉพาะทางเยอะ (Hard Skills) เขียนแบบนี้ได้นะคะ เรียงลำดับความสำคัญจากมากไปน้อย
- แบบที่ 2 (ตัวอย่าง 2,3)
- เขียนรวมไว้กับประสบการณ์ทำงาน เพื่ออธิบายอย่างละเอียดว่า เรามีทักษะอะไร และมีประสบการณ์ทำงานอะไรบ้าง
- อธิบายว่าเราทำอะไรบ้าง เราจึงมีทักษะนั้น เป็นข้อย่อยลงมา
- ทักษะและประสบการณ์ที่เขียน ควรเป็นไปในทางเดียวกัน
- แบบที่ 3 (ตัวอย่าง 1,3)
- เขียนรวมกับหัวข้อ คุณสมบัติเด่น/Qualification เนื่องจากหัวข้อนี้เป็นถังที่เราใส่คุณสมบัติดีทุกอย่างของเราได้ แอดมินจึงมักจะใส่ soft skills (คือลักษณะอุปนิสัย คุณสมบัติภายในที่ส่งผลกับความคิดและการกระทำของเรา ช่วยให้เราร่วมงานกับผู้อื่นได้ เช่นการแก้ปัญหา. การติดต่อสื่อสาร, การทำงานเป็นทีม เป็นต้น) ไว้ในหัวข้อนี้ บางครั้งก็รวมรางวัล ความสำเร็จทุกอย่างที่ควรโชว์ไปด้วย ไม่ผิดอะไร เพราะถือว่าเป็นที่รวมคุณสมบัติดีๆของเราค่ะ
- เลือกทักษะที่เหมาะกับตำแหน่งงานที่สมัครมากที่สุดไว้ลำดับแรก
- หากมีทักษะหลายด้านที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่สมัคร เขียนหลายด้านได้ แต่ไม่ควรมากเกินไปจนเยิ่นเย้อ
- สำหรับผู้สมัครที่ไม่มีช่วงว่างงานนาน แนะนำตัวอย่างที่ 1 และ 3 ค่ะ
เคล็ดลับ
- ทักษะที่เขียนนั้น ควรเป็นทักษะที่จำเป็นต่อการทำงานในตำแหน่งที่สมัคร ซึ่งจะช่วย support ให้เราเป็นผู้สมัครที่มีความสามารถเหมาะกับตำแหน่งงาน
- หากสามารถคาดเดาได้ว่า ตำแหน่งงานใดจำเป็นจะต้องใช้ทักษะอะไรบ้าง หรือทักษะใดที่เรามี ตรงกับตำแหน่งงานใดบ้าง แล้วเขียนให้สอดคล้องกัน เราก็จะเป็นผู้สมัครงานที่มีทักษะเหมาะกับงานมากที่สุดนั่นเอง
ตัวอย่างเรซูเม่ภาษาอังกฤษ 1: การเขียนทักษะ Skills ใน resume (รูปแบบการเขียนเรียงตามลำดับเวลา Chronological Format Resume)
ตัวอย่างเรซูเม่ภาษาอังกฤษ 2: การเขียนทักษะ Skills ใน resume (รูปแบบการเขียนเน้นทักษะที่เหมาะกับตำแหน่งงาน Functional Format Resume)
ตัวอย่างเรซูเม่ภาษาอังกฤษ 3: การเขียนทักษะ Skills ใน resume (รูปแบบการเขียนแบบผสมทักษะ+ลำดับเวลา Combination Format Resume)
-------------------------
มีตัวอย่างเพิ่มเติมอีกหลายสาขา + หลักการเขียน 4 ข้อให้ยึดได้ สำหรับนศ.จบใหม่/ฝึกงานโดยเฉพาะ ดูได้ที่
ตัวอย่าง resume นักศึกษาจบใหม่/ฝึกงานโดยเฉพาะ |
ไอเดียเขียนเรซูเม่ สำหรับนศ.จบใหม่/ฝึกงานและผู้ไม่มีประสบการณ์ทำงาน
ไอเดียเขียนเรซูเม่ นักศึกษาจบใหม่/ฝึกงาน ผู้สมัครที่ไม่มีประสบการณ์ |
Template เรซูเม่ ช่วยจัดระเบียบหัวข้อเรซูเม่เป็นสัดส่วน
เทมเพลตเรซูเม่ไทย/อังกฤษ ช่วยจัดระเบียบเนื้อหาที่เขียนได้ |
รวบรวมประโยคตัวอย่างการเขียน resume ภาษาอังกฤษ แบ่งตามหัวข้อ
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีเขียนหัวข้อ Special Interests เพื่อเพิ่มความพิเศษใน resume
- ใช้ Past Tense หรือ Present Tense ใน resume กันแน่?
- 5 ข้อควรทำ vs ไม่ควรทำในการเขียน resume ภาษาอังกฤษ+เคล็ดลับให้ได้งาน
- Template เรซูเม่ แบบ offline (MS Word)